โดยปกติแล้วยาขยายหลอดลมชนิดน้ำสำหรับใส่เครื่องพ่นละอองยา (Nebulizer Solution) จะต้องทำที่โรงพยาบาล แต่สำหรับเด็กที่เป็นโรคทางเดินหายใจบ่อยๆ ติดหวัดมาจากโรงเรียน หรือเด็กที่มีประวัติเป็นโรคหอบ คุณหมอจะแนะนำให้มีเครื่องพ่นละอองยาไว้ที่บ้าน เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางมาพ่นยาที่โรงยาบาล สำหรับในเด็กเล็กและผู้ป่วยที่ไม่สามารถใช้ยาพ่นชนิดอื่น ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยาที่นิยมใช้มากที่สุดในกลุ่มนี้คือ ซาลบูทามอล (Salbutamol หรือ Albuterol) ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มยาออกฤทธิ์สั้นเพื่อบรรเทาอาการ (Short-Acting Beta-Agonists: SABA) โดยยาตัวนี้ไม่เหมาะที่จะซื้อหาเองตามร้านขายยานอกเหนือจากแพทย์สั่ง มาดูเหตุผลกันว่าทำไม!

คำถามที่ผู้ปกครองสงสัยคือ ยาใส่เครื่องพ่นขยายหลอดลมเหล่านี้สามารถซื้อมาเก็บไว้ใช้เองได้หรือไม่?
ตามหลักการแพทย์สากล “ยาใส่เครื่องพ่นขยายหลอดลม” แบบ Nebulizers หรือที่เราเรียกว่ายาพ่น ที่ใช้ในโรงพยาบาล เราไม่ควรซื้อมาใช้คู่กับเครื่องเอง ควรใช้ตามแพทย์สั่ง ภายหลังการแอดมิทกรณีป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจคุณหมออาจจะจ่ายมาเป็นจำนวนหนึ่งให้ใช้ในระยะเวลาที่กำหนด และไม่ควรใช้ติดต่อนานเกินไป โดยทั่วไปแล้ว “ยาใส่เครื่องพ่นขยายหลอดลม” ถือเป็นยาที่ต้องมีใบสั่งแพทย์
ทำความเข้าใจ “ยาขยายหลอดลม” สำหรับเครื่องพ่นคืออะไร?

ยาขยายหลอดลมชนิดน้ำสำหรับเครื่องพ่นละอองยาที่ใช้กับเด็ก ส่วนใหญ่คือ ซาลบูทามอล (Salbutamol) ในรูปแบบสารละลาย (Nebulizer Solution) ซึ่งออกฤทธิ์โดยการคลายกล้ามเนื้อเรียบรอบหลอดลม ทำให้หลอดลมเปิดกว้างและอากาศไหลผ่านได้ดีขึ้น ยาชนิดนี้จัดเป็น “ยาบรรเทาอาการ (Reliever)” ที่ใช้เฉพาะเมื่อมีอาการหอบหืดกำเริบหรือหลอดลมตีบ
ความเสี่ยงร้ายแรงของการซื้อยาใส่เครื่องพ่นเองโดยไม่มีใบสั่งแพทย์ (สำหรับเด็ก)
ผู้เชี่ยวชาญด้านระบบทางเดินหายใจและหน่วยงานกำกับดูแลด้านยาของหลายประเทศ ไม่แนะนำ ให้ผู้ปกครองซื้อยาซาลบูทามอลชนิดน้ำมาใช้กับเด็กที่บ้านโดยไม่มีคำแนะนำและการกำกับดูแลจากแพทย์เฉพาะทางความเสี่ยงที่สำคัญมีดังนี้
1. บดบังความรุนแรงของโรค (Masking Deterioration)
การให้ยาขยายหลอดลมอย่างต่อเนื่องด้วยเครื่องพ่นยาที่บ้าน อาจทำให้ผู้ปกครองรู้สึกว่าอาการของเด็กดีขึ้นชั่วคราว แต่ไม่ได้รักษาการอักเสบภายในหลอดลมซึ่งเป็นสาเหตุหลักของโรคหอบหืด
- ความเสี่ยงถึงชีวิต: มีรายงานกรณีผู้เสียชีวิตในเด็กบางรายที่การใช้เครื่องพ่นยาที่บ้านโดยไม่มีการดูแลของแพทย์มีส่วนทำให้เกิด ความล่าช้าในการพาเด็กไปพบแพทย์ฉุกเฉิน เมื่ออาการกำเริบรุนแรงขึ้นจริง
2. การใช้ยาเกินขนาด (Overuse) และผลข้างเคียงรุนแรง
ยาซาลบูทามอล หากใช้บ่อยเกินความจำเป็น อาจนำมาซึ่งผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อเด็ก
- หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ (Tachycardia): เป็นผลข้างเคียงที่พบบ่อยของยาในกลุ่ม Beta-agonists ซึ่งอาจทำให้หัวใจทำงานหนักขึ้น
- ระดับโพแทสเซียมในเลือดต่ำ (Hypokalaemia): การใช้ยาซาลบูทามอลในปริมาณสูงหรือบ่อยครั้งอาจทำให้ระดับโพแทสเซียมในเลือดลดลง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการทำงานของหัวใจและกล้ามเนื้อ
- การควบคุมโรคแย่ลง: การศึกษาพบว่าการใช้ยาขยายหลอดลมชนิดออกฤทธิ์สั้น (SABA) มากเกินไปบ่งชี้ถึงการควบคุมโรคหอบหืดที่แย่ลง และเพิ่มความเสี่ยงต่อการต้องเข้าห้องฉุกเฉิน
3. การวินิจฉัยและปริมาณยาที่ไม่ถูกต้อง
การใช้ยาขยายหลอดลมที่เหมาะสมกับเด็กต้องอาศัยการประเมินความรุนแรงของโรค และการกำหนดขนาดยา (Dosage) ที่ถูกต้องโดยแพทย์ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามอายุและน้ำหนักตัวของเด็ก การซื้อยามาใช้เองอาจทำให้
- ได้รับยาไม่พอ: หากได้รับยาน้อยเกินไป อาการจะไม่ทุเลา
- ได้รับยามากเกินไป: เพิ่มความเสี่ยงของผลข้างเคียง
- ไม่ได้รับการรักษาควบคุมโรค: เด็กอาจไม่ได้ยาควบคุมการอักเสบ (Inhaled Corticosteroids: ICS) ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาหอบหืดในเด็กเล็ก

ข้อแนะนำที่ถูกต้องสำหรับผู้ปกครอง
- ต้องมีใบสั่งแพทย์เสมอ: ยาซาลบูทามอลชนิดน้ำสำหรับเครื่องพ่นละอองยา จัดเป็นยาควบคุมพิเศษ ที่ต้องจ่ายโดยแพทย์และอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เฉพาะทางเท่านั้น
- ปรึกษาแพทย์เพื่อรับการฝึกอบรม: หากแพทย์สั่งให้ใช้เครื่องพ่นยาที่บ้าน ผู้ปกครองควรได้รับการฝึกอบรมจากแพทย์หรือพยาบาลเกี่ยวกับ วิธีการใช้เครื่องพ่นยาที่ถูกต้อง การทำความสะอาด และที่สำคัญคือ การสังเกตอาการของเด็กเพื่อทราบว่าเมื่อใดที่ต้องรีบพาเด็กไปโรงพยาบาลฉุกเฉิน
- ติดตามความถี่ในการใช้ยา: หากเด็กจำเป็นต้องใช้ยาขยายหลอดลมบ่อยครั้งขึ้น ถือเป็นสัญญาณอันตรายที่บ่งชี้ว่าอาการหอบหืดกำลังแย่ลง ผู้ปกครองต้องพาเด็กไปพบแพทย์ทันที เพื่อปรับแผนการรักษา ไม่ใช่การซื้อยามาพ่นเองเพิ่ม
เมื่อรู้อย่างนี้แล้ว เจ็บป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจครั้งต่อไปก็อย่าเพิ่งหาเครื่องพ่นยา และยาพ่นมาใช้เองที่บ้าน แต่ถ้าหากมีลูกหลายคน และเป็นภูมิแพ้ มีโรคทางเดินหายใจบ่อยๆ หากต้องการใช้เครื่องพ่นยา ก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความปลอดภัยนะคะแม่ๆ
แม่ๆ สามารถติดตามเพจ “เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์” ด้วยการคลิกที่นี่ได้เลยค่ะ
อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง
- เครื่องพ่นยาหอบหืดแบบพกพา ยี่ห้อไหนดี? หาซื้อได้ที่ไหนบ้าง?
- เครื่องพ่นละอองยาแบบคอมเพรสเซอร์ Omron คืออะไร ใช้งานอย่างไร
- 10 โรคยอดฮิตในเด็ก ที่จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ (พร้อมวงเงินรักษากรณีแอดมิด)
- ยาพ่นจมูก Avamys คืออะไร เด็กและผู้ใหญ่ใช้เหมือนกันไหม?
- วิธีล้างจมูกที่ถูกต้อง ช่วยลดน้ำมูก คัดจมูก และป้องกันภูมิแพ้
บรรณานุกรม (References)
- Nicola, et al. (2018). การเสริมสร้างการรับรู้สมรรถนะแห่งตนในผู้ดูแล: กรณีผู้ป่วยเด็กโรคหอบหืดที่ต้องได้รับการพ่นยาขยาย. วารสารวิชาการ.
- Alotaibi, A. S., et al. (2024). Over-the-Counter Bronchodilators Use Among Asthmatic Patients in Al-Medina Al-Monawwara. Chronic Respiratory Disease. (วารสารวิชาการ)
- GOV.UK. (2022). Nebulised asthma rescue therapy in children: home use of nebulisers in paediatric asthma should be initiated and managed only by specialists. Drug Safety Update. (ข้อมูลความปลอดภัยด้านยา)
- Olin, J. (2024). Dangers of under-treatment and over-treatment with inhaled corticosteroids in children with asthma. PMC. (วารสารวิชาการ)
- Chatchatee, P., et al. (2023). Practical recommendations for home-nebulized corticosteroid use in children aged ≤ 5 years with asthma. Asian Pacific Journal of Allergy and Immunology. (วารสารวิชาการ)
- NHS. Salbutamol Inhalers: Who can and cannot use salbutamol inhalers. (ข้อมูลสุขภาพจากหน่วยงานรัฐ)
- The Royal Children’s Hospital. (2023). Clinical Practice Guidelines: Acute asthma. (แนวทางปฏิบัติทางคลินิก)
- Medicines and Healthcare products Regulatory Agency (MHRA). Salbutamol 1mg/ml nebuliser solution – Summary of Product Characteristics (SmPC). (ข้อมูลยาอย่างเป็นทางการ)
- Mayo Clinic. Albuterol (inhalation route) – Side effects & dosage. (ข้อมูลยาจากสถาบันการแพทย์)





ใส่ความเห็น