ผู้ใหญ่เป็นมือเท้าปากได้ไหม?

ก่อนหน้านี้เราเคยคิดว่า “โรคมือเท้าปาก” เป็นโรคของเด็กเล็กเท่านั้น พอใครพูดถึง ก็มักจะนึกถึงเด็กวัยเตาะแตะที่เพิ่งเข้าอนุบาล แล้วอยู่ดี ๆ มีไข้ ปากเป็นแผล มีน้ำลาย มือเท้ามีผื่นขึ้น แต่อยากบอกว่า… ผู้ใหญ่เองก็เป็นโรคมือเท้าปากได้! และพอเป็นแล้ว อาการหนักกว่าเด็กหลายเท่าเลย

5 โรคทางเดินหายใจเด็ก ที่เปลืองเงินพ่อแม่มากที่สุด (พร้อมวงเงินค่ารักษา)

บทความนี้อยากแชร์ทั้งจากประสบการณ์ตรงที่แม่เป็นเองหลังจากลูกเพิ่งหาย พร้อมข้อมูลจากเว็บไซต์สุขภาพของต่างประเทศที่น่าเชื่อถือ เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวดูแลตัวเองและคนในบ้าน โดยเฉพาะช่วงที่โรคนี้ระบาดในโรงเรียน

มือเท้าปากในผู้ใหญ่ เกิดจากอะไร?

โรคมือเท้าปาก (Hand, Foot, and Mouth Disease – HFMD) เกิดจากการติดเชื้อไวรัสกลุ่ม Enterovirus โดยเฉพาะชนิด Coxsackievirus A16 และ Enterovirus 71 (EV71) ซึ่งพบได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่

ในเด็กส่วนใหญ่จะหายเองภายในไม่กี่วัน แต่อาการในผู้ใหญ่มักรุนแรงกว่า โดยเฉพาะถ้ามีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือเป็นครั้งแรกในชีวิต

✏️ อ้างอิงจาก Centers for Disease Control and Prevention (CDC):
“Although HFMD is most common in children younger than 5 years old, it can sometimes occur in older children and adults.”
— CDC – Hand, Foot, and Mouth Disease

อาการมือเท้าปากในผู้ใหญ่ เป็นยังไง?

ตอนที่เราเป็น แรก ๆ ก็แค่รู้สึกเพลีย ๆ มีไข้ต่ำ แล้วอยู่ดี ๆ ปากก็เริ่มแสบ เหมือนจะร้อนใน แต่ไม่ใช่แผลแบบปกติ แล้วถัดมาอีกวัน มือกับเท้าก็เริ่มมีผื่นแดง ๆ คล้ายจุดน้ำร้อนลวก และรู้สึกเจ็บแบบแปลบ ๆ

อาการทั่วไปที่มักเกิดในผู้ใหญ่:

มีไข้ 37.5 – 39 องศา
เจ็บคอ ปากเป็นแผล มีจุดแดงในลิ้นหรือกระพุ้งแก้ม
ผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือข้อศอก
ปวดเมื่อยตามตัว อ่อนเพลีย
ในบางคนอาจมีผื่นหรือแผลขึ้นที่เข่า ก้น หรือบริเวณอื่นด้วย

✏️ จาก Mayo Clinic:
“Adults can also develop hand-foot-and-mouth disease, and when they do, the symptoms can sometimes be more severe than in children.”
— Mayo Clinic – Hand-foot-and-mouth disease

โรคมือเท้าปากในผู้ใหญ่ ใช้เวลากี่วันถึงจะหาย?

โดยทั่วไปแล้ว โรคนี้จะใช้เวลา 7–10 วันในการหาย อาการไข้และปวดเมื่อยมักจะหายก่อนใน 2–3 วันแรก ส่วนแผลในปากและผื่นที่มือเท้า อาจอยู่ต่ออีกประมาณ 5–7 วัน

แต่ในผู้ใหญ่ บางครั้งอาการจะ “ทรมานกว่า” เพราะแผลในปากทำให้กินข้าวไม่ลง เจ็บจนพูดลำบาก ผื่นที่มือเท้าอาจมีอาการแสบคันร่วมด้วย

✏️ จาก Healthline:
“The illness is usually mild and goes away in 7 to 10 days without medical treatment.”
— Healthline – What to Know About Hand, Foot, and Mouth Disease in Adults

ระยะฟักตัวของโรคมือเท้าปาก

หลังจากได้รับเชื้อ โรคจะมีระยะฟักตัวประมาณ 3–6 วัน ก่อนเริ่มแสดงอาการ ซึ่งหมายความว่าเราสามารถแพร่เชื้อได้ แม้ยังไม่แสดงอาการ นี่คือเหตุผลที่ไวรัสนี้แพร่เร็วมากในบ้านที่มีเด็กเล็ก

✏️ จาก Cleveland Clinic:
“The incubation period for HFMD is typically three to six days.”
— Cleveland Clinic – HFMD

มือเท้าปากในผู้ใหญ่ รักษาอย่างไร?

โรคนี้ ไม่มียารักษาเฉพาะทาง การดูแลจึงเน้นการรักษาตามอาการ เช่น:

พักผ่อนมาก ๆ
ดื่มน้ำเยอะ (แนะนำเป็นน้ำเย็นหรือน้ำเกลือแร่)
ทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล
กลั้วคอด้วยน้ำเกลือ หรือน้ำอุ่นผสมเบกกิ้งโซดา
ถ้าปากเป็นแผลเยอะ ควรหลีกเลี่ยงของร้อนหรือรสจัด
หมั่นล้างมือ เปลี่ยนผ้าปูที่นอน และของใช้ส่วนตัวบ่อย ๆ

ถ้าอาการไม่ดีขึ้นใน 3 วัน มีไข้สูงไม่ลด หรือกินไม่ได้เลย ควรพบแพทย์ทันที

มือเท้าปาก รักษาเองได้ไหม?

ส่วนใหญ่ถ้าไม่มีภาวะแทรกซ้อน (เช่น ไม่มีไข้สูงต่อเนื่อง, ไม่มีภาวะขาดน้ำ, หรือไม่แพ้ผื่นมากเกินไป) ก็สามารถ รักษาตัวเองที่บ้านได้ โดยเน้นดูแลตัวเองตามอาการ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสคนอื่นโดยตรงเพื่อไม่ให้แพร่เชื้อ

ในกรณีที่คุณแม่ติดจากลูก อย่าลืมใส่หน้ากาก แยกอุปกรณ์กินข้าว และล้างมือให้ถี่ขึ้นมากกว่าปกติ เพราะถึงแม้จะเป็นแค่ 1 ครั้ง แต่เชื้อนี้สามารถอยู่ในร่างกายได้หลายวันหลังจากหายแล้ว

คำถามที่คนมักสงสัยเกี่ยวกับ “มือเท้าปากในผู้ใหญ่”

ติดจากลูกได้ไหม?
👉 ได้แน่นอน โดยเฉพาะเวลาจับน้ำลาย น้ำมูก หรือผ้าอ้อมที่ปนเชื้อ
คนท้องติดได้ไหม?
👉 ติดได้ แต่ถ้าเป็นใกล้ช่วงคลอดอาจต้องระวัง เพราะอาจส่งผลต่อลูกน้อยในครรภ์
หายแล้วเป็นอีกได้ไหม?
👉 ได้ เพราะมีหลายสายพันธุ์ แต่ส่วนใหญ่ถ้าหายแล้วร่างกายจะมีภูมิคุ้มกันชั่วคราว

เพราะฉะนั้นแล้ว หากคุณพ่อคุณแม่ดูแลลูกน้อยวัย Pre-School ก็ย่อมมีโอกาสติดเชื้อโรคมือเท้าปากได้ตลอดเวลา จึงอย่าลืมดูแลตัวเอง สังเกตอาการไม่ให้ป่วยเพิ่ม และแยกผู้สูงอายุไม่ให้อยู่ใกล้น้อง เพื่อป้องกันไม่ให้ติดเชื้อมือเท้าปาก สำหรับใครที่มองหาประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่าใช้จ่ายการดูแลโรคมือเท้าปาก ติดตามได้จากบทความนี้ >> 10 โรคยอดฮิตในเด็ก ที่จำเป็นต้องมีประกันสุขภาพ (พร้อมวงเงินรักษากรณีแอดมิด)

www.SHOP-DEK.com