สำหรับคุณแม่มือใหม่ (รวมถึงคุณพ่อมือขยัน!) ที่กำลังมองหาเป้อุ้มดีๆ สักตัว เชื่อเลยว่าเข้าไปดูในร้านแล้วต้องงงแน่ๆ เพราะเป้อุ้มมีหลายแบบมาก ทั้งชนิดผ้า แบบมีโครง แบบคาดเอว แบบอุ้มหน้า อุ้มหลัง ฯลฯ ยิ่งพอพนักงานหรือรีวิวเริ่มพูดเรื่อง “น้ำหนักตัวลูก” กับ “ช่วงวัยที่เหมาะสม” ยิ่งเริ่มลังเลใหญ่…
ความจริงแล้วการเลือกเป้อุ้มตามน้ำหนักตัวของทารกเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะถ้าเลือกผิดรุ่นหรือใช้ผิดช่วงวัย อาจทำให้ลูกนั่งไม่สบาย ตัวงอ ไม่กระชับ หรือส่งผลต่อพัฒนาการของกระดูกสะโพกและหลังของเขาได้เลยทีเดียว
วันนี้เราเลยจะมาเล่าให้ฟังแบบเข้าใจง่ายๆ ว่า เป้อุ้มแต่ละแบบเหมาะกับช่วงน้ำหนักของลูกแบบไหน พร้อมแนบรุ่นเป้อุ้มที่น่าใช้ให้ไปเลือกกันได้ง่ายๆ ด้วย
รู้จัก “ช่วงน้ำหนักตัว” ที่สำคัญต่อการเลือกเป้อุ้ม
โดยทั่วไป น้ำหนักตัวของลูกจะเป็นตัวกำหนดว่า
- ควรใช้เป้อุ้มชนิดไหน (เช่น ชนิดผ้า wrap, soft structured carrier, หรือ hip seat)
- ต้องอุ้มท่าไหน (อุ้มหันหน้าเข้า อุ้มหันหน้าออก อุ้มข้าง อุ้มหลัง)
- ต้องมี support เสริมไหม เช่น เบาะรองคอหรือเบาะเสริมทารก
ตารางเป้อุ้มที่เหมาะกับน้ำหนักตัวทารก
| น้ำหนักลูกน้อย | ช่วงอายุโดยประมาณ | เป้อุ้มที่เหมาะสม | หมายเหตุเพิ่มเติม |
|---|---|---|---|
| 3.5 – 7 กก. | แรกเกิด – 4 เดือน | เป้แบบผ้า / มีเบาะเสริม | ต้องประคองคอและสะโพกให้มั่นคง |
| 7 – 11 กก. | 4 – 12 เดือน | เป้มีโครง / Soft Structured | เริ่มหันหน้าออกได้ถ้าคอลูกแข็งแล้ว |
| 11 – 15 กก. | 1 – 2 ขวบ | เป้แบบคาดเอว / Hip Seat | อุ้มข้างหรืออุ้มหลังจะสะดวกขึ้น |
| 15 กก. ขึ้นไป | 2 ขวบขึ้นไป | เป้คาดเอวแบบมีที่นั่งใหญ่ | ต้องดูว่ารองรับน้ำหนักได้จริงไหม |
💡 หมายเหตุ: ช่วงอายุเป็นเพียงการประมาณเบื้องต้น ควรยึดน้ำหนักตัวและพัฒนาการจริงของลูกเป็นหลักเสมอ
วิธีเลือกเป้อุ้มให้เหมาะกับน้ำหนักลูก (แบบเข้าใจง่าย)
1. ลูกแรกเกิด (3.5 – 7 กก.)
สิ่งที่ต้องเน้น: ต้องรองรับศีรษะ คอ และสะโพกอย่างดี
แนะนำเป้แบบ: ผ้าพันตัว (Wrap), Mei Tai, หรือเป้มีเบาะเสริมสำหรับแรกเกิด
🛑 ห้ามอุ้มหันหน้าออก
✅ ต้องอุ้มหันหน้าเข้า เพื่อให้ลูกแนบกับอกแม่
2. ลูกน้ำหนัก 7 – 11 กก.
สิ่งที่ต้องดู: เริ่มคอแข็งแล้ว บางคนเริ่มพลิกคว่ำ
แนะนำเป้แบบ: Soft Structured Carrier เช่น Ergobaby, BabyBjörn
🟢 เริ่มเปลี่ยนท่าอุ้มได้ เช่น หันหน้าออก / อุ้มด้านข้าง
🛑 ต้องแน่ใจว่าเป้มี support ตรงสะโพกและต้นขาอย่างเพียงพอ
3. ลูกน้ำหนัก 11 – 15 กก.
สิ่งที่เปลี่ยน: ลูกตัวหนักขึ้น พ่อแม่เริ่มเมื่อยแขนบ่อย
แนะนำเป้แบบ: เป้คาดเอว / Hip Seat แบบมีที่นั่ง
🟢 อุ้มข้างสลับซ้าย-ขวา / อุ้มหลังได้
✅ ลดน้ำหนักที่ลงตรงไหล่และหลังคุณพ่อคุณแม่ได้ดี
4. ลูกเกิน 15 กก. ขึ้นไป
คำแนะนำ: ลูกโตแล้วแต่ยังอยากอุ้มบ้างเวลางอแงหรือต้องเดินเยอะ
แนะนำเป้แบบ: รุ่นที่เน้นโครงสร้างแข็งแรง รองรับน้ำหนักได้ถึง 20 – 25 กก.
✅ เลือกรุ่นที่สายคาดไหล่และเอวหนา เพื่อกระจายน้ำหนักได้ดี
🟢 บางรุ่นเป็นเป้ Backpack สำหรับสายแอดเวนเจอร์เลยก็มี
แนะนำสินค้าเป้อุ้มคุณภาพดีตามน้ำหนักลูก
👶 1. Ergobaby Omni Breeze

- เหมาะกับ: 3.2 – 20 กก.
- จุดเด่น: ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิดไม่ต้องมีเบาะเสริม
- ราคา: ฿6,900 – ฿7,900
🛒 สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
👶 2. BABYBJÖRN One Air

- เหมาะกับ: 3.5 – 15 กก.
- จุดเด่น: ระบายอากาศดีเยี่ยม / ซัพพอร์ตสะโพกดี
- ราคา: ฿7,500 – ฿8,500
🛒. สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
👶 3. Pognae ORGA Plus Hipseat

- เหมาะกับ: 6 – 20 กก.
- จุดเด่น: มี Hip Seat สำหรับลูกโต / พับเก็บได้
- ราคา: ฿4,900 – ฿5,500
🛒 สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
👶 4. Aprica Koala Plus

- เหมาะกับ: 3.5 – 15 กก.
- จุดเด่น: มีเบาะรองศีรษะและสะโพกสำหรับแรกเกิด
- ราคา: ฿6,500 – ฿7,500
🛒 สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
👶 5. FIN BABIESPLUS Hip Seat รุ่น Soft Touch

- เหมาะกับ: 6 – 20 กก.
- จุดเด่น: ราคาประหยัด น้ำหนักเบา / ใส่-ถอดง่าย
- ราคา: ฿990 – ฿1,390
🛒 สั่งซื้อได้ที่ SHOPEE | LAZADA | TIKTOK
การเลือกเป้อุ้มตามน้ำหนักลูก สำคัญกว่าที่คิด
เพราะเป้อุ้มที่เหมาะกับน้ำหนักตัวจะช่วยให้ลูก “นั่งถูกท่า” พัฒนาการดี และคุณพ่อคุณแม่ “ไม่ปวดหลัง” จากการแบกรับน้ำหนักผิดจุด อย่าเพิ่งดูแค่ดีไซน์น่ารักหรือรีวิวอย่างเดียว ให้เริ่มต้นจากการ “ดูน้ำหนักตัวลูกก่อน” แล้วค่อยเลือกเป้ที่รองรับได้จริง





ใส่ความเห็น