ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย 2568/2025 มีเจ้าไหนบ้าง

นับตั้งแต่มีโรคโควิด -19 ระบาดขึ้นมา การเคลมประกันสุขภาพเด็กเกี่ยวกับโรคปอดอักเสบนั้นมีเงื่อนไขเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเด็กที่ป่วยด้วยโรคทางเดินหายใจบ่อยๆ อย่าง RSV, ไข้หวัดใหญ่ ก็จะทำให้เบี้ยสูงขึ้น หรือบางรายก็ถูกประกันยกเลิก บทความนี้ Shop-dek.com พาคุณพ่อคุณแม่มาเลือกประกันสุขภาพเด็กแต่ละเจ้าเพื่อเป็นทางเลือกป้องกันเงินในกระเป๋าฉีก เพราะค่ารักษาพยาบาล มาดูกันค่ะว่ามีเจ้าไหนบ้าง

ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย 2568/2025 มีเจ้าไหนบ้าง
ประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย 2568/2025 มีเจ้าไหนบ้าง

ชื่อแผนประกัน แวลู เฮลธ์ คิดส์ พรีเมียร์ ให้ความคุ้มครองทั้ง OPD และ IPD รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 10 ขวบ เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย คุ้มครองค่าบริการทางการแพทย์ และพยาบาล ค่าแพทย์ผ่าตัด และค่าหัตถการ สูงสุด 400,000 บาท (อ่านเพิ่มเติมที่นี่)

ชื่อแผนประกัน วิริยะ โกลด์ บาย บีดีเอ็มเอส ให้ความคุ้มครองทั้ง OPD และ IPD รับประกันตั้งแต่อายุ 15 วัน ใช้บริการในโรงพยาบาลเครือ BDMS ไม่ต้องสำรองจ่าย แผนประกันต่อเดือนเริ่มต้น 1,7XX บาท วงเงินคุ้มครองสูงสุด 5 ล้านบาท (อ่านเพิ่มเติมได้ที่)

ชื่อแผนประกัน สมาย คิดส์ ให้ความคุ้มครองทั้ง OPD และ IPD รับประกันตั้งแต่อายุ 1 เดือนถึง 15 ปี เป็นประกันสุขภาพเด็กแบบเหมาจ่าย และมีเงินคืนเมื่อสิ้นสุดสัญญา มีค่าชดเชยรายวันกรณีเข้าพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีค่าชดเชยรายวันกรณีป่วยด้วย 5​โรคที่พบบ่อยในเด็กตามข้อกำหนด (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

ชื่อแผนประกัน สมาร์ทเตอร์ เฮลท์ เป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายตามจริง เริ่มต้นเป็นแผนความคุ้มครองการนอนโรงพยาบาลแบบ IPD ค่าห้องสูงสุด 7,000 บาท และคุ้มครองสูงสุดวงเงิน 5 ล้านบาท คืนเบี้ยประกัน 10% ในปีถัดไปถ้าไม่เคลม เลือกซื้อความคุ้มครองแบบ OPD ได้เพิ่มเติม (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

ชื่อแผนประกัน Health Happy Kids เป็นสัญญาแนบท้ายประกันชีวิต ต้องทำประกันชีวิตฉบับหลักก่อนถึงจะทำสัญญาแนบท้ายตัวนี้ได้ เบี้ยต่อปีประมาณ 70,000 บาท เมื่อครบสัญญามีเงินคืนส่วนหนึ่ง รับผู้เอาประกันตั้งแต่อายุ 15 วัน ถึง 10 ปี ต่ออายุได้ถึง 98 ปี (อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่)

คำแนะนำของ Shop-dek.com ที่อยากแนะนำคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่กำลังจะเลือกทำประกันสุขภาพให้ลูกนั้น อยากให้คุณพิจารณาแผนประกันสุขภาพเด็กจากความเหมาะสม ดังนี้

1. ประกันสุขภาพเด็กที่พ่วงประกันชีวิต

  • ค่าเบี้ยปีละประมาณ 40,000 – 60,000 บาทต่อปี
  • เหมาะสำหรับ : เด็กที่อยู่ในครอบครัวที่มีประวัติโรคร้ายแรง, เด็กที่เป็นภูมิแพ้, พ่อแม่ที่มีความพร้อมทางการเงิน
  • ข้อดี : เป็นประกันสุขภาพเด็กเหมาจ่าย ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลแทบทุกโรค
  • ข้อเสีย : ค่าเบี้ยสูงกว่าแบบประกันอื่นๆ

ประกันสุขภาพประเภทนี้มีค่าเบี้ยต่อปีสูงที่สุดเมื่อเทียบกับแบบอื่นๆ เหมาะสหรับครอบครัวที่มีความพร้อมทางการเงิน และครอบครัวที่มีประวัติโรคร้ายแรง อาทิ โรคหัวใจ โรคมะเร็ง โรคความดันโลหิต โรคเบาหวาน เป็นต้น โรคเหล่านี้มีโอกาสถ่ายทอดทางพันธุกรรม และเหมาะจะทำประกันสุขภาพเด็กให้แก่ลูกตั้งแต่แรกเกิด เพราะหากเจอโรคประจำตัวในอนาคตก็จะไม่สามารถทำประกันสุขภาพเองได้

2. ประกันสุขภาพเด็กที่เป็นประกันวินาศภัย

  • ค่าเบี้ยปีละประมาณ 2,000 – 30,000 บาทต่อปี
  • เหมาะสำหรับ : ทำเป็นแผนประกันที่ 2 เพื่อรองรับแผนประกันแรกจ่ายไม่หมด, เหมาะสำหรับเด็กที่ไม่ค่อยป่วยง่าย แต่พ่อแม่ต้องการปิดความเสี่ยงด้านการเงินหากป่วยเป็นโรคร้ายแรง
  • ข้อดี : ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเฉพาะโรคที่เป็นบ่อยๆ พวกโรคฮิตสำหรับเด็ก,​ ไม่ต้องต่ออายุรายปี
  • ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายส่วนแรก

แผนประกันสุขภาพที่ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเฉพาะ 4-5 โรคฮิต เช่น โรคไข้หวัดใหญ่, มือเท้าปาก, โรคอาร์เอสวี, ไข้เลือดออก ฯลฯ มีค่าใช้จ่ายส่วนแรก หมายถึง หากเข้ารักษาตัวด้วยการนอนโรงพยาบาล ประกันจะจ่ายค่ารักษา ที่เกิน 20,000 บาท หรือตามข้อกำหนด ขึ้นไป ประกันประเภทนี้ราคาถูก ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลเฉพาะโรคที่มีโอกาสป่วยบ่อย เหมาะสำหรับเด็กเล็กทุกบ้าน

3. ประกันอุบัติเหตุสำหรับเด็ก ไม่ใช่ประกันสุขภาพ

  • ค่าเบี้ยปีละประมาณ 500 – 5,000 บาทต่อปี
  • เหมาะสำหรับ : เด็กซนๆ เด็กวัยไปโรงเรียน
  • ข้อดี : ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลการบาดเจ็บจากอุบัติเหตุที่ไม่คาดคิด
  • ข้อเสีย : ถ้าไม่ได้เคลม ก็เท่ากับจ่ายเบี้ยทิ้ง

แผนประกันอุบัติเหตุ ไม่ใช่แผนประกันสุขภาพ แต่ก็เป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำให้กับเด็ก โดยเฉพาะเด็กที่แอคทีฟตลอดเวลา มีความต้องการเรียนรู้สูง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุนั้นค่ารักษาพยาบาลก็ค่อนข้างสูง

Read More :

ใส่ความเห็น

I’m Panghoam

สวัสดีค่ะ -/\- ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ ช้อปเด็ก ดอท คอม รวมบทความไลฟ์สไตล์ที่เที่ยวครอบครัว ข่าวสารสุขภาพ รวมถึงแนะนำสินค้าเด็ก ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงเด็กแรกเกิด ฝากติดตามเว็บของแม่แป้งหอม ในนี้ และที่เพจ เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์ด้วยนะคะ