อาหารอะไรบ้างเสี่ยงโรคแอนแทรกซ์

ระวังให้ดี อาหารที่เราคิดว่าปลอดภัย อาจแฝงเชื้อร้ายได้โดยไม่รู้ตัว

แม้ว่า “โรคแอนแทรกซ์” (Anthrax) จะไม่ได้พบได้ง่ายในชีวิตประจำวันของคนเมือง แต่ในหลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะในชุมชนที่มีการเลี้ยงสัตว์ หรือยังไม่มีระบบควบคุมโรคในปศุสัตว์ที่เข้มแข็ง “อาหาร” ที่มาจากสัตว์บางประเภท ก็ยังอาจเป็นแหล่งเสี่ยงของเชื้อแบคทีเรีย Bacillus anthracis ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคแอนแทรกซ์ได้เช่นกัน

บทความนี้จะพาไปรู้จักว่าอาหารประเภทใดบ้างที่อาจเสี่ยง และควรหลีกเลี่ยงหรือป้องกันอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยในพื้นที่ชนบท หรือเดินทางไปในภูมิภาคที่เคยมีการระบาดของโรค

อาหารอะไรบ้างเสี่ยงโรคแอนแทรกซ์

แอนแทรกซ์ไม่ใช่โรคที่เกิดจากการเน่าเสียของอาหารโดยตรงเหมือนอาหารเป็นพิษทั่วไป แต่เป็นการติดเชื้อ แบคทีเรียชนิดพิเศษ ที่สร้างสปอร์อยู่ในดิน และเมื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เช่น วัว ควาย แพะ หรือแกะ ไปกินหญ้าที่ปนเปื้อนเชื้อเข้า ก็อาจติดโรคและแพร่สู่มนุษย์ได้

หากมนุษย์รับประทานเนื้อสัตว์ที่ติดเชื้อโดย ไม่ผ่านการปรุงสุก ก็มีโอกาสติดเชื้อแอนแทรกซ์ทางระบบทางเดินอาหารได้ ซึ่งอาจรุนแรงถึงขั้นเลือดออกในลำไส้ ติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิต

1. เนื้อวัว เนื้อควายที่ไม่ได้ตรวจสอบโรค

เนื้อสัตว์กลุ่มนี้มักเป็นพาหะของโรคแอนแทรกซ์ในประเทศที่ยังไม่มีระบบควบคุมโรคในสัตว์อย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในกรณีที่สัตว์ตายผิดธรรมชาติ และถูกชำแหละเพื่อนำมาบริโภคหรือจำหน่ายอย่างไม่ได้มาตรฐาน

หากบริโภคเนื้อที่มาจากสัตว์เหล่านี้ โดยไม่รู้แหล่งที่มา หรือปรุงไม่สุก อาจเสี่ยงรับเชื้อเข้าสู่ทางเดินอาหารโดยตรง

2. เลือดดิบ ลาบดิบ สะดุ้ง

อาหารพื้นบ้านหลายชนิดที่นิยมในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เช่น ลาบเลือด ก้อย สะดุ้งเนื้อ หรือซอยจุ๊ มักใช้เนื้อดิบหรือเลือดสด ซึ่งอาจปนเปื้อนเชื้อแอนแทรกซ์หากมาจากสัตว์ติดเชื้อ

แม้จะเป็นอาหารที่ขึ้นชื่อ แต่หากรับประทานโดยไม่ปรุงให้สุก ก็เสี่ยงติดเชื้อได้

3. เครื่องในวัว ควายดิบ

อวัยวะภายในสัตว์ เช่น ตับ ไต ม้าม มักเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคได้มากกว่าส่วนอื่น ๆ ของร่างกายสัตว์ หากนำมาทำอาหารแบบดิบ หรือกึ่งดิบกึ่งสุก ย่อมเพิ่มโอกาสรับเชื้อโดยตรงเข้าสู่ระบบทางเดินอาหาร

4. เนื้อสัตว์นำเข้าแบบแช่แข็งจากแหล่งไม่ปลอดภัย

แม้ในประเทศไทยจะมีการควบคุมเนื้อสัตว์นำเข้าอย่างเข้มงวด แต่หากบริโภคเนื้อจากแหล่งที่ไม่น่าเชื่อถือ หรือซื้อสินค้าราคาถูกผิดปกติ โดยไม่มีเครื่องหมายรับรอง อาจมีความเสี่ยงปนเปื้อนเชื้อในกระบวนการผลิตหรือขนส่ง

การติดเชื้อแอนแทรกซ์ทางเดินอาหาร จะมีอาการเฉียบพลันภายในไม่กี่วัน ได้แก่

  • คลื่นไส้ อาเจียน
  • ปวดท้องอย่างรุนแรง
  • ถ่ายเหลว อาจมีเลือดปน
  • ไข้ หนาวสั่น เหนื่อยง่าย
  • บางรายอาจมีอาการตกเลือดในทางเดินอาหาร
  • หากรุนแรง อาจเข้าสู่ภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด

เนื่องจากอาการคล้ายกับอาหารเป็นพิษทั่วไป จึงมักถูกวินิจฉัยช้า ดังนั้นหากมีประวัติบริโภคอาหารที่เสี่ยง และอาการไม่ดีขึ้นใน 1-2 วัน ควรรีบพบแพทย์ทันที

  • ผู้ที่ชำแหละหรือแปรรูปเนื้อสัตว์จากแหล่งที่ไม่ได้ตรวจโรค
  • ผู้ประกอบการขายอาหารดิบหรือเมนูพื้นบ้านที่ใช้เนื้อดิบ
  • ผู้ที่นิยมรับประทานอาหารดิบเป็นประจำ
  • เด็ก ผู้สูงอายุ หรือผู้มีภูมิคุ้มกันต่ำ ที่ระบบย่อยอาหารอ่อนแอ
  • หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ที่มาจากสัตว์ตายผิดปกติ
  • เลือกซื้อเนื้อสัตว์จากแหล่งที่น่าเชื่อถือ และมีตราสัญลักษณ์รับรองจากกรมปศุสัตว์
  • หลีกเลี่ยงอาหารที่ใช้เนื้อดิบ เลือดดิบ หรือเครื่องในดิบ
  • ปรุงอาหารทุกชนิดให้สุกโดยทั่วถึง (ควรให้ความร้อนมากกว่า 70°C นานอย่างน้อย 10 นาที)
  • ล้างมือ และอุปกรณ์ประกอบอาหารให้สะอาดก่อนและหลังการใช้งาน
  • หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแบบแช่แข็งที่ละลายน้ำแข็งไม่ถูกวิธี

แม้โรคแอนแทรกซ์จะไม่ได้แพร่กระจายง่าย และมักเกี่ยวข้องกับสัตว์ป่วยหรือแหล่งอาหารที่ไม่ปลอดภัย แต่พฤติกรรมบริโภคอาหารดิบ ยังคงเป็นช่องทางสำคัญที่ทำให้คนไทยติดเชื้อได้โดยไม่รู้ตัว

การหลีกเลี่ยงอาหารเสี่ยง โดยเฉพาะเมนูพื้นบ้านที่ไม่ผ่านความร้อน และการเลือกซื้อจากแหล่งที่น่าเชื่อถือ คือทางรอดที่สำคัญ ทั้งสำหรับตัวเองและครอบครัว

หากรู้สึกไม่สบาย มีไข้ ปวดท้อง หรือถ่ายเหลวภายในไม่กี่วันหลังจากกินเนื้อสัตว์ดิบ หรืออาหารที่สงสัยว่าอาจปนเปื้อน ควรรีบไปพบแพทย์ทันที และแจ้งประวัติการบริโภคอย่างละเอียด เพื่อช่วยในการวินิจฉัยและรักษาอย่างทันท่วงที

บทความโดย shop-dek.com

ใส่ความเห็น

I’m Panghoam

สวัสดีค่ะ -/\- ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ ช้อปเด็ก ดอท คอม รวมบทความไลฟ์สไตล์ที่เที่ยวครอบครัว ข่าวสารสุขภาพ รวมถึงแนะนำสินค้าเด็ก ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงเด็กแรกเกิด ฝากติดตามเว็บของแม่แป้งหอม ในนี้ และที่เพจ เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์ด้วยนะคะ