หลายคนกลัวการมีลูกตรงที่หากเด็กๆ ป่วยแล้วต้องนอนโรงพยาบาล จะมีค่าใช้จ่ายที่สูง บทความนี้ Shop-dek.com นำ 10 โรคที่พบบ่อย พร้อมวงเงินค่ารักษาถ้าต้องแอดมิทมาฝากแม่ๆ และท้ายบทความนี้จะมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกประกันสุขภาพเพื่อครอบคลุมค่ารักษาโรคต่างๆ มาติดตามกันได้ค่ะ
10 โรคในเด็ก ที่ใช้เงินรักษามากที่สุด
เด็กเล็กในวัย 0–12 ปี เป็นช่วงวัยที่ภูมิคุ้มกันยังพัฒนาไม่เต็มที่ ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วยได้ง่าย โดยเฉพาะโรคยอดฮิตที่พบได้บ่อยในโรงเรียนหรือสถานรับเลี้ยงเด็ก การมีประกันสุขภาพสำหรับเด็กจึงไม่ใช่เรื่องฟุ่มเฟือย แต่เป็นการวางแผนการเงินที่ชาญฉลาด เพราะค่ารักษาโรคเด็กในโรงพยาบาลเอกชนปัจจุบันนั้นมีราคาสูง โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องแอดมิดบทความนี้ Shop-dek.com จะพาคุณไปรู้จักกับ 10 โรคยอดฮิตในเด็ก พร้อมระบุค่ารักษาโดยประมาณกรณีต้องแอดมิดในโรงพยาบาลเอกชน และเหตุผลว่าทำไม ควรมีประกันสุขภาพเด็ก ตั้งแต่ยังเล็กๆ ค่ะ

1. โรคมือ เท้า ปาก
โรคมือเท้าปาก พบได้ตั้งแต่เปิดเทอม เป็นกันตั้งแต่เด็กเล็กถึงเด็กโต อาการแรกเริ่มคือกินข้าวไม่ลง เจ็บคอ และมีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า เด็กผู้ชายมักจะแสดงผื่นให้เห็นบริเวณก้นถึงหลัง ส่วนเด็กผู้หญิงมักมีอาการร้อนใน เจ็บคอ มีผื่นในปากชัดเจนกว่า โรคนี้ติดผู้ใหญ่ได้ และยิ่งเด็กเล็กๆ ควรเฝ้าระวังอาการ เพราะหากไข้สูง ไวรัสสามารถเข้าไปแทรกแซงระบบประสาทได้
วิธีการรักษาตามอาการ ให้ยาชาแบบหยอด เพื่อลดอาการเจ็บปวดทรมานขณะรับประทานอาหาร และหากเด็กมีอาการทางเดินหายใจร่วมด้วย กับไข้สูง คุณหมอแนะนำให้นอนโรงพยาบาล ส่วนใหญ่แล้วก็จะอยู่ 2-3 คืนค่ะ
- ลักษณะโรค: มีผื่นหรือแผลในปาก ฝ่ามือ และฝ่าเท้า อาจมีไข้ร่วมด้วย
- ค่ารักษา (แอดมิด): ประมาณ 15,000 – 30,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: เด็กป่วยบ่อยช่วงหน้าฝน และบางรายอาจมีอาการแทรกซ้อนทางระบบประสาท
2. โรคไข้หวัดใหญ่
โรคไข้หวัดใหญ่มักจะพบการระบาดช่วงเดือน พฤศจิกายน ถึง กุมภาพันธ์ อาการของโรคคือเหมือนไข้หวัดธรรมดาทั่วไป แต่ไข้สูง (38.5 – 41 องศาเซลเซียส) ในช่วง 72 ชั่วโมงแรก เด็กมักจะซึม และหากเชื้อลงปอดจะเกิดอาการแทรกซ้อนได้ง่าย มีโอกาสเข้า ICU
- ลักษณะโรค: ไข้สูง หนาวสั่น ปวดหัว ไอจามแรง เกิดจากเชื้อ Influenza
- ค่ารักษา (แอดมิด): 18,000 – 35,000 บาท ICU 60,000 – 120,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: ติดต่อได้ง่ายในโรงเรียน อาจมีภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดอักเสบ
3. ปอดบวมในเด็ก
อาการปอดบวมเกิดขึ้นได้จากหวัดธรรมดาทั่วไป รวมถึงจากไข้หวัดโรคทางเดินหายใจร้ายแรง หากไม่รักษามีโอกาสน้ำท่วมปอด ซึ่งการรักษามีตั้งแต่แอดมิทห้องธรรมดาไปจนถึงห้อง ICU ถือว่าเป็นภาวะที่กินเงินเก็บพ่อแม่ได้สูงมาก
- ลักษณะโรค: หายใจเร็ว ไอ แน่นหน้าอก เสียงครืดคราด
- ค่ารักษา (แอดมิด): 30,000 – 50,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: โรคนี้อันตรายสำหรับเด็กเล็ก และต้องรักษาด้วยยาปฏิชีวนะเฉพาะทาง
4. ลำไส้อักเสบเฉียบพลัน
เด็กเล็กวัยหย่านมถึง 5 ขวบ มีโอกาสท้องเสีย ปวดท้อง จากโรคลำไส้อักเสบเฉียบพลัน เพราะเด็กเล่นหยิบของมาอม ไม่ล้างมือ มีโอกาสติดเชื้อจากที่บ้านและโรงเรียน เมื่อต้องแอดมิท จะได้น้ำเกลือ และยาทางสายน้ำเกลือ เพื่อบรรเทาอาการขาดน้ำ
- ลักษณะโรค: อาเจียน ถ่ายเหลว มีไข้ หรือปวดท้อง
- ค่ารักษา (แอดมิด): 20,000 – 40,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: ถ้าเด็กขาดน้ำ ต้องให้น้ำเกลือ และตรวจอุจจาระหลายชนิด ป้องกันอาการชัก
5. โรค RSV (Respiratory Syncytial Virus)
อาร์เอสวี เป็นโรคฮิตของเด็ก มักระบาดในโรงเรียนเอกชน และศูนย์เด็กเล็กช่วงหน้าฝน อาการมีตั้งแต่ ท้องเสีย ติดต่อทางเดินหายใจ หอบ ไปจนถึงลงปอด บางคนต้องแอดมิทในห้อง ICU เสียค่ารักษาเป็นแสน
- ลักษณะโรค: คล้ายหวัดแต่รุนแรงกว่า มักเกิดในเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี
- ค่ารักษา (แอดมิด): 25,000 – 45,000 บาท, ICU 50,000 – 100,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: RSV ไม่มีวัคซีนป้องกัน และสามารถติดซ้ำได้ทุกปี มีโอกาสเป็นปอดบวม
6. ไข้เลือดออก
โรคไข้เลือดออกระบาดในช่วงหน้าฝน ที่มียุงลายเป็นพาหะ สามารถเป็นได้ทั้งที่โรงเรียน ที่บ้าน และตามชุมชน เมื่อเป็นแล้วจะเกิดจ้ำสีแดงที่ผิวหนัง และหากสังเกตไม่ทัน ไข้สูง จะเป็นอันตรายถึงชีวิต
- ลักษณะโรค: ไข้สูงเฉียบพลัน มีจุดเลือดออก ตัวลาย เพลียมาก
- ค่ารักษา (แอดมิด): 30,000 – 70,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: ถ้าไม่ตรวจเลือดตั้งแต่ต้น อาจมีภาวะช็อค อันตรายถึงชีวิต
7. โรคอีสุกอีใส
โรคอีสุกอีใสยังพบการระบาดอยู่ แม้ว่าจะมีวัคซีนแล้ว สายพันธุ์ของโรครุนแรงขึ้นเรื่อยๆ มีตุ่มน้ำใสขึ้นตามตัว และอาจลุกลามอักเสบ จนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลด้วย
- ลักษณะโรค: มีไข้ ผื่นแดงกลายเป็นตุ่มน้ำใส อาจลามทั่วตัว
- ค่ารักษา (แอดมิด): 12,000 – 25,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: เด็กที่เป็นอาจต้องหยุดเรียนหลายวัน และหากติดเชื้อซ้ำแผลอาจอักเสบ
8. โรคหลอดลมอักเสบ
โรคหลอดลมอักเสบ จากการเรียนว่ายน้ำ หรือสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เป็นได้ทุกฤดูกาล เด็กที่เป็นภูมิแพ้อยู่แล้วมีโอกาสต้องพ่นยาที่โรงพยาบาลสูง และเด็กเล็กต่ำกว่า 2 ขวบที่ยังขากเสมหะลำบาก ก็ต้องดูดเสมหะด้วยเครื่องมือพิเศษที่โรงพยาบาล เพื่อป้องกันอาการปอดบวม
- ลักษณะโรค: ไอมีเสมหะ หายใจมีเสียงวี๊ด หายใจเหนื่อย
- ค่ารักษา (แอดมิด): 20,000 – 40,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: จำเป็นต้องพ่นยา ดูดเสมหะ และให้ออกซิเจนในบางราย
9. ภูมิแพ้ในเด็ก
โรคภูมิแพ้เป็นแล้วไม่หายขาด เป็นแล้วก็จะยิ่งทำให้อาการของโรคต่างๆ หนักขึ้น โดยเฉพาะช่วงที่มีฝุ่น PM2.5 ที่ห้องนอนควรมีเครื่องฟอกอากาศ และควรเลือกโรงเรียนที่มีการจัดการระบบถ่ายเทอากาศที่ดี
- ลักษณะโรค: คัดจมูก น้ำมูกไหล คันตา ไอเรื้อรัง หรือผื่นผิวหนัง
- ค่ารักษา (แอดมิดกรณีรุนแรง): 15,000 – 35,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: เด็กบางรายมีอาการรุนแรงจนต้องนอนโรงพยาบาลและเฝ้าระวังการแพ้อาหาร
10. หูชั้นกลางอักเสบ
หูชั้นกลางอักเสบจากการเล่นน้ำ หรือมีสิ่งสกปรกเข้าหูเด็ก ต้องได้รับการรักษาจากแพทย์เฉพาะทาง มีโอกาสเกิดขึ้นกับเด็กเล็กที่ชอบเล่นน้ำ หากรักษาไม่ทัน มีผลต่อการได้ยิน
- ลักษณะโรค: ปวดหู มีไข้ น้ำหนองไหลจากหู บางครั้งเด็กจะร้องไห้ไม่หยุด
- ค่ารักษา (แอดมิด): 12,000 – 20,000 บาท
- อาการที่ต้องแอดมิท: ถ้าไม่รักษาให้หาย อาจมีผลต่อการได้ยินระยะยาว
ทำไมควรมีประกันสุขภาพสำหรับเด็ก?
- ลดภาระค่าใช้จ่ายฉุกเฉิน – ค่าแอดมิดโรงพยาบาลเอกชนเฉลี่ย 15,000 – 70,000 บาทต่อครั้ง
- เข้าถึงการรักษาเร็วขึ้น – เลือกโรงพยาบาลเอกชนได้โดยไม่ต้องรอนาน
- คุ้มครองค่าห้อง ค่าแพทย์ ค่ายา – หลายแผนประกันจ่ายค่าห้องสูงสุดวันละ 2,000–5,000 บาท
- ใช้สิทธิ์ลดหย่อนภาษีได้ – ประกันสุขภาพลูกใช้ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 15,000 บาท/ปี
แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่เด็กๆ จะป่วยในช่วงวัยเติบโต แต่สิ่งที่พ่อแม่ทำได้คือการเตรียมความพร้อมไว้ล่วงหน้า การเลือก ประกันสุขภาพสำหรับเด็ก จึงเป็นทางออกที่คุ้มค่า ช่วยดูแลค่ารักษาเมื่อต้องแอดมิดโดยไม่กระทบเงินเก็บในบ้าน บทความนี้จะนำวิธีการเลือกแผนประกันสุขภาพเด็ก โดยอิงจากแผน D Kids Plus จากเมืองไทยประกันชีวิต เพื่อเป็นตัวเปรียบเทียบกับแผนอื่นๆ ของคุณค่ะ
🩺 สนใจทำประกันสุขภาพเด็ก เดี๋ยวนี้สะดวกมาก ทำได้ทั้งออนไลน์ และตัวแทน
🛒 สนใจสินค้าแม่และเด็กเพิ่มเติม คลิกดูหมวด สุขภาพเด็ก ที่ขายดีประจำปี [คลิกที่นี่]
เหตุผลที่บทความนี้แม่แอดมินเลือก “ประกันสุขภาพเด็ก D Kids Plus” มาเป็นตัวอย่าง เพราะเป็นแผนประกันที่ความเคลียร์ในตัวเอง ที่เราสามารถหาข้อมูลได้จากเว็บไซต์ ไม่เหมือนประกันสุขภาพเด็กผ่านตัวแทนเจ้าอื่นๆ ที่ต้องคอยถามรายละเอียด และเขามักให้รายละเอียดที่เป็นประโยชน์ต่อค่าคอมมิชชั่นของตัวแทนมากกว่า ทั้งทีความจริงในท้องตลาด แผนประกันสุขภาพเด็กที่ครอบคลุมประมาณนี้ก็มีราคา 50,000 – 70,000 บาท อยู่แล้ว แต่จ่ายอย่างไรให้คุ้มค่า จ่ายอย่างไรให้ไม่เป็นเบี้ยจ่ายทิ้ง มาดูกันค่ะ

จุดเด่นของแผนประกันสุขภาพเด็ก D Kids Plus
- ครอบคลุมค่ารักษาแอดมิดโรคฮิตในเด็กทั้ง 10 โรคที่กล่าวมา และยังครอบคลุมโรคอื่นๆ ด้วย
- ทำได้ตั้งแต่เด็กอายุ 30 วัน และเมื่อโตขึ้นก็สามารถปรับแผนได้ตามความต้องการ ไม่ Fix เหมือนเจ้าอื่น
- มีแผนความคุ้มครองให้เลือกกรณีมีสิทธิ์สวัสดิการของพ่อแม่อยู่แล้ว โดยมีส่วนแรกที่ ผู้ปกครองต้องจ่ายไปก่อน และส่วนหลังที่มีแผนคุ้มครอง 1 ล้าน กับ 5 ล้านบาท
- เท่าที่ได้ยินมา เคลมบ่อยก็ไม่ยกเลิกเหมือนบางเจ้า ที่เด็กเป็นโรคทางเดินหายใจ 2 ครั้งต่อปี แล้วถูกยกเลิกกรมธรรม์ไม่ต่อสัญญา




Read More :








ใส่ความเห็น