โรค Tic ในเด็ก คืออะไร หายเองได้ไหม ต้องใช้ยาหรือเปล่า?

“ทำไมลูกชอบกระพริบตาถี่ ๆ กระตุกคอ หรือออกเสียงแปลก ๆ ซ้ำ ๆ?” นี่อาจเป็นสัญญาณของ โรค Tic ในเด็ก ซึ่งเป็นภาวะที่พบได้บ่อยในวัยเด็ก โดยเฉพาะช่วงอายุ 5-10 ปี ผู้ปกครองหลายคนอาจกังวลว่า อาการเหล่านี้จะหายได้เองไหม หรือควรรีบพาไปพบแพทย์ดี วันนี้ Shop-dek.com นำข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับโรคนี้แบบเข้าใจง่าย พร้อมแนวทางดูแลเบื้องต้น เพื่อลดความกังวลของคุณพ่อคุณแม่มาฝากกันค่ะ

โรค Tic ในเด็ก คืออะไร หายเองได้ไหม ต้องใช้ยาหรือเปล่า?

โรค Tic ในเด็ก คืออะไร?

Tic (ทิค) คือ อาการกระตุกหรือเคลื่อนไหวซ้ำ ๆ โดยไม่ตั้งใจ ซึ่งเกิดขึ้นรวดเร็วและไม่สามารถควบคุมได้ เด็กที่เป็นโรค Tic จะมีพฤติกรรมบางอย่างที่เกิดขึ้นแบบไม่รู้ตัว และมักเกิดซ้ำ ๆ ในรูปแบบเดิม โดยอาการ Tic แบ่งได้ 2 ประเภทหลัก ๆ คือ:

  • Motor Tic – การเคลื่อนไหวของร่างกาย เช่น ขยิบตา กระตุกคอ สะบัดไหล่
  • Vocal Tic – เสียงที่เกิดจากการบังคับไม่ได้ เช่น กระแอม เสียงร้อง หรือลักษณะคล้ายไอ

ในบางรายอาจมีทั้งสองอย่างร่วมกัน ซึ่งถ้าเกิดอาการนานเกิน 1 ปีและมีหลายลักษณะ อาจเข้าข่าย Tourette Syndrome

ตัวกระตุ้นโรค Tic ในเด็ก มีอะไรบ้าง?

เมื่อเด็กอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลายและไม่มีความกดดัน อาการ Tic มักจะลดลงได้เองอย่างเห็นได้ชัด อาการ Tic มักจะรุนแรงขึ้นเมื่อเด็กเจอสิ่งกระตุ้นบางอย่าง โดยเฉพาะ:

  • ✅ ความเครียด ความวิตกกังวล
  • ✅ การนอนน้อย หรือพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • ✅ สถานการณ์กดดัน เช่น ช่วงสอบ การเปลี่ยนแปลงที่โรงเรียน
  • ✅ การถูกสั่งให้หยุดหรือโดนตำหนิบ่อย ๆ
  • ✅ การเลียนแบบพฤติกรรมที่เห็นจากผู้อื่น
  • ✅ ภาวะสมาธิสั้น (ADHD), โรคย้ำคิดย้ำทำ (OCD) หรือกรรมพันธุ์บางราย

โรค Tic หายเองได้ไหม?

ข่าวดีคือ เด็กส่วนใหญ่ที่มีอาการ Tic จะหายได้เองเมื่อโตขึ้น โดยเฉพาะในกรณีที่เป็นเพียง Transient Tic Disorder หรือโรค Tic ชั่วคราว ที่อาการมักจะหายไปภายใน 1 ปี

ประเภท Ticลักษณะโอกาสหาย
Tic ชั่วคราว (Transient Tic)เป็นไม่เกิน 1 ปี✅ หายได้เอง
Tic เรื้อรัง (Chronic Tic)เป็นเกิน 1 ปี แต่ไม่มีเสียง❌ หายยากกว่า
Tourette Syndromeมีทั้งอาการกระตุกและเสียงนานเกิน 1 ปี❌ ต้องการการดูแลระยะยาว

อย่างไรก็ตาม ถ้าอาการ Tic ยังคงอยู่นานเกิน 1 ปี หรือรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านพัฒนาการเด็กหรือจิตเวชเด็ก

โรค Tic ใช้ยาอะไร?

โดยทั่วไป แพทย์จะเริ่มต้นจากการเฝ้าระวัง และไม่ให้ยาในกรณีที่อาการไม่รุนแรง เพราะยามีผลข้างเคียงและไม่จำเป็นในทุกคน

แนวทางการรักษา:

  1. พฤติกรรมบำบัด (CBIT – Comprehensive Behavioral Intervention for Tics)
    เป็นแนวทางที่ได้ผลดีโดยไม่ใช้ยา ฝึกให้เด็กสังเกตและควบคุมอาการ
  2. การใช้ยา (ในกรณีรุนแรง)
    แพทย์อาจพิจารณาใช้ยาหากอาการส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต เช่น:
    • Clonidine, Guanfacine – ช่วยลด Tic และควบคุมสมาธิสั้น
    • Haloperidol, Risperidone – ใช้ในกรณี Tourette ที่รุนแรง
    • ยาอื่น ๆ ตามอาการร่วม เช่น ยาแก้ซึมเศร้ หรือยาคลายกังวล
  3. ดูแลร่วมกับโรงเรียนและครอบครัว
    • หลีกเลี่ยงการตำหนิหรือเน้นย้ำอาการของเด็ก
    • สนับสนุนให้เด็กมั่นใจในตัวเองและไม่รู้สึกว่า “ตัวเองแปลก”

ผู้ปกครองควรทำอย่างไร?

  • ✅ สังเกตพฤติกรรมลูกอย่างเข้าใจ ไม่ตำหนิหรือกดดัน
  • ✅ หากอาการเบา มักจะหายได้เอง ไม่ต้องใช้ยา
  • ✅ ถ้าอาการไม่หายภายใน 1 ปี หรือรบกวนการใช้ชีวิต ควรปรึกษาแพทย์
  • ✅ พฤติกรรมบำบัดคือทางเลือกที่ปลอดภัยและได้ผลในเด็กจำนวนมาก

แนะนำว่า หากลูกของคุณมีอาการ Tic ควรเริ่มต้นด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมที่ผ่อนคลาย และหมั่นสังเกตพฤติกรรมอย่างไม่ตื่นตระหนก เพราะในหลายกรณี เด็กสามารถหายได้เองเมื่อเวลาผ่านไป

คำค้นหา : โรค tic ในเด็ก, tic เด็ก, tic หายไหม ,tic ใช้ยาอะไร,โรคกระตุกในเด็ก

ติดตามบทความดีๆ จากเว็บไซต์ Shop-dek.com ได้ที่เพจ “เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์

รับส่วนลดสินค้าโปรโมชั่น SHOPEE | LAZADA | TIKTOK SHOP คลิกเลย

จองที่พัก โรงแรม ตั๋วเครื่องบิน สำหรับทริปครอบครัวทั่วประเทศ และทั่วโลกได้ที่นี่ >> www.agoda.com หรือ SHOPEE | LAZADA

ใส่ความเห็น

I’m Panghoam

สวัสดีค่ะ -/\- ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ ช้อปเด็ก ดอท คอม รวมบทความไลฟ์สไตล์ที่เที่ยวครอบครัว ข่าวสารสุขภาพ รวมถึงแนะนำสินค้าเด็ก ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงเด็กแรกเกิด ฝากติดตามเว็บของแม่แป้งหอม ในนี้ และที่เพจ เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์ด้วยนะคะ