10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 พร้อมวิธีเลือกให้เด็กแรกเกิดถึงเด็ก 6 ขวบ

รถเข็นเด็ก คือตัวช่วยขณะเดินทาง ลดการอุ้ม และควบคุมพื้นที่ให้เด็กๆ อยู่นิ่งขณะเดินทางท่องเที่ยว ส่วนใหญ่รถเข็นเด็กนี้ต้องใช้ตั้งแต่แรกคลอด ตลอดจนการพาไปฉีดวัคซีน และที่สำคัญคือการพาออกไปเดินเล่นนอกบ้านช่วงอากาศดีๆ รวมไปถึงการใช้วางทารกให้นอนหรือนั่งขณะคุณพ่อคุณแม่ไปจับจ่ายซื้อของ ด้วยราคารถเข็นเด็ก ที่ค่อนข้างสูง บทความนี้ Shop-dek.com จึงนำวิธีการเลือกรถเข็นเด็กแต่ละแบบมาให้ศึกษากันค่ะ

รถเข็นเด็ก คืออะไร จำเป็นต้องใช้ไหม?

ประวัติการออกแบบรถเข็นเด็กมีมาอย่างยาวนาน ด้วยการใช้อุปกรณ์รองรับให้เด็กๆ ปลอดภัย และสามารถนั่งหรือนอนได้บนที่นั่งปรับนอน มีม่านบังแดด และเบาะรองที่อ่อนโยนต่อการสัมผัส รวมไปถึงล้อลาก และด้ามจับที่สะดวก ปัจจุบันนี้รถเข็นเด็กเป็นแบบพับได้เกือบ 100% เพื่อการพกพาใส่ท้ายรถ ขึ้นเครื่อง รถเข็นเด็กจำเป็นต้องใช้ในการเดินทางแทบทุกประเภท

10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025

1. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ CHICCO

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ CHICCO
รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025​ : CHICCO

CHICCO เป็นแบรนด์จากอิตาลีที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 60 ปีในผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก โดยเฉพาะรถเข็นเด็กที่เน้นความสะดวกสบาย และปลอดภัย

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 5,000 – 20,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA


2. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Babyzen Yoyo

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 Babyzen Yoyo
รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 Babyzen Yoyo

Babyzen Yoyo เป็นแบรนด์จากฝรั่งเศสที่โดดเด่นในเรื่องของรถเข็นเด็กที่พับได้เล็กกะทัดรัดและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการเดินทาง

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 12,000 – 25,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

3. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ GB Pockit

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 : GB
รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 : GB

GB Pockit จากเยอรมนีได้รับการบันทึกใน Guinness World Records ว่าเป็นรถเข็นเด็กที่เล็กที่สุดเมื่อพับ เหมาะสำหรับพกพาไปทุกที่

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 7,000 – 15,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ: SHOPEE | LAZADA

4. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Maclaren Quest

Maclaren เป็นแบรนด์อังกฤษที่มีชื่อเสียงในด้านการออกแบบรถเข็นเด็กที่มีความทนทานและน้ำหนักเบา เหมาะสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 10,000 – 18,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

5. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Combi

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 Combi
รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 Combi

Combi จากญี่ปุ่นเป็นแบรนด์ที่เน้นเรื่องความปลอดภัยและการใช้งานที่ง่ายดาย มีระบบลดแรงสั่นสะเทือนที่ยอดเยี่ยม โดยเฉพาะรุ่น F2 มีช่องเก็บสัมภาระขนาดใหญ่ใต้ที่นั่ง พร้อมสายรัดเข็มขัด 5 ตัวล็อก ปลอดภัย และสะดวกในการเดินทางไกล

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 8,000 – 20,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ: SHOPEE | LAZADA

6. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Aprica

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ aprica

Aprica เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีประวัติยาวนานกว่า 70 ปี รถเข็นเด็กของ Aprica โดดเด่นในเรื่องความสะดวกสบายและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ล่าสุดมีรุ่นที่พับได้ พกขึ้นเครื่องบินได้ พร้อมช่องใส่สัมภาระขนาดใหญ่ ปรับคันโยกเพื่อเข็นได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 9,000 – 18,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

7. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Joie Pact

รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี : Joie

Joie จากอังกฤษเป็นแบรนด์ที่มีดีไซน์ทันสมัย พร้อมทั้งราคาที่เข้าถึงง่ายและฟังก์ชันที่ครบครัน ล้อฟรี และแข็งแรง มีม่านบังแดด และแผ่นรองนั่งที่นุ่มสบาย รองรับตัวเด็กได้เหมาะสม

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 6,000 – 12,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ:ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

8. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Graco

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Joovy

ประวัติ: Graco จากสหรัฐอเมริกาเป็นแบรนด์ที่รู้จักกันดีในด้านการผลิตสินค้าสำหรับเด็กที่มีความคุ้มค่าและใช้งานง่าย มีให้เลือกหลากหลายแบบ โดยเฉพาะรุ่นที่นั่งได้แบบพี่น้อง เด็กแฝด ช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่คุณพ่อคุณแม่ขณะเดินทาง

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 7,000 – 15,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ:ช่องทางการสั่งซื้อ SHOPEE | LAZADA

9. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ JOOVY

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 : Joovy
รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี 2025 : Joovy

JOOVY เป็นแบรนด์จากสหรัฐอเมริกาที่เน้นการออกแบบรถเข็นเด็กที่มีความทนทานและเหมาะสำหรับครอบครัวที่มีกิจกรรมกลางแจ้ง บางรุ่นเป็นรถเข็นเด็กสำหรับออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ วิ่งไปด้วย เข็นเด็กไปด้วย สร้างความสัมพันธ์ระหว่างลูกๆ และครอบครัว

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 9,000 – 16,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ:  SHOPEE | LAZADA

10. รถเข็นเด็ก ยี่ห้อ Beige

รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี : Beige

Beige เป็นแบรนด์ที่เน้นความเรียบง่ายและฟังก์ชันการใช้งานที่ตอบโจทย์ชีวิตประจำวัน โดยมีราคาที่ถูกที่สุดในกลุ่มสินค้าเด็กยอดนิยม และใช้งานได้ไม่แพ้รถเข็นเด็กแบรนด์ดังๆ

  • ราคา: เริ่มต้นประมาณ 5,000 – 10,000 บาท
  • ช่องทางการสั่งซื้อ: SHOPEE | LAZADA

รถเข็นเด็ก มีกี่ประเภท เลือกแบบไหนดีที่สุด? 

เทคโนโลยีสมัยใหม่ออกแบบรถเข็นเด็กให้เข้ากับการใช้งานได้หลากหลาย มีฟังก์ชั่นที่เหมาะสมกับการใช้งานของแต่ละครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นช่องสัมภาระเก็บของ ที่แขวนกระเป๋า รวมไปถึงรถเข็นเด็กแฝด หรือรถเข็นเด็กพี่น้อง ที่นั่งกันได้ 2 คน มาดูกันว่าเมื่อแบ่งตามการใช้งาน รถเข็นเด็ก มีกี่ประเภท มาดูกันค่ะ

1. รถเข็นเด็กทั่วไป (Standard Stroller)

รถเข็นเด็ก ประเภททั่วไป มีหน้าตาที่ไม่แตกต่างจากรถเข็นเด็กสมัยก่อน ประกอบด้วย เบาะรองนอน ล้อ และคันลาก เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไป ปัจจุบันนี้ก็ออกแบบมาเป็นรถเข็นเด็กพับได้ เกือบทั้งหมดแล้ว เพื่อความสะดวกต่อการเคลื่อนย้ายสัมภาระ และการเดินทาง

2. รถเข็นเด็กแบบพับได้ (Lightweight Stroller)

รถเข็นเด็กแบบพับได้ ในที่นี้ ต่างจากข้อ 1 ตรงวัสดุ ที่ออกแบบมาให้เบา เพื่อรองรับการยก และการเดินทางขึ้นเครื่องบิน ขนาดจะต้องเล็กกะทัดรัด และมีความแข็งแรงต่อการใช้งาน ปกติแล้วรถเข็นเด็กพับได้นี้จะมีราคาสูงมากกว่าแบบอื่นๆ 

3. รถเข็นเด็กแบบปรับนอนได้ (Convertible Stroller)

รถเข็นเด็กประเภทปรับนอนได้ ออกแบบมาสำหรับเด็กแรกเกิด และเด็กเล็ก สามารถรูดเชือก หรือปลดล็อคเบาะนั่งให้เป็นเบาะนอนได้ เพิ่มความสะดวกให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกเล็กที่ต้องพาไปยังสถานที่ต่างๆ เด็กก็จะได้มีที่นั่งพัก นอนหลับได้อย่างสงบ

4. รถเข็นเด็กสำหรับวิ่งออกกำลังกาย (Jogging Stroller)

รถเข็นเด็กสำหรับวิ่งออกกำลังกาย สำหรับคุณพ่อคุณแม่สายเทรล ถือเป็นรถเข็นเด็กยุคใหม่ที่ออกแบบมาเพื่อการวิ่งเล่นในสวนสาธารณะ ในต่างประเทศนั้นเป็นที่นิยมมาก แม้ว่าจะมีราคาสูง แต่เมื่อเทียบกับความคุ้มค่าแล้วก็เสมือนซื้อเครื่องออกกำลังกายอีกหนึ่งชิ้น จุดเด่นของรถเข็นเด็กสำหรับวิ่งออกกำลังกาย คือล้อที่ใหญ่ และมีระบบป้องกันการสั่นสะเทือน มักจะมี 3 ล้อ เพื่อความคล่องตัว

5. รถเข็นเด็กแบบคู่ (Double Stroller)

รถเข็นเด็กแบบคู่ ออกแบบมาเพื่อรองรับเด็กแฝด หรือพี่น้องที่อายุไล่เรี่ยกัน ทำให้คุณพ่อคุณแม่สะดวกที่จะพาลูกนั่งรถเข็นเด็กไปยังทุกสถานที่ 

เราควรเลือก “รถเข็นเด็ก” แบบไหนดี?

วิธีการเลือกรถเข็นเด็กที่ดีที่สุด ควรเลือกจากความปลอดภัย และเลือกจากใครเป็นคนเข็นบ่อยที่สุด? เพราะถ้าหากเลือกจากฟังก์ชั่นการใช้งานมากมาย แต่คุณพ่อหรือคุณแม่ไม่สามารถยกได้ พับยาก ก็จะทำให้เสียเงินไม่คุ้มค่า คุณพ่อคุณแม่ลองพิจารณาจากคุณสมบัติรถเข็นเด็กต่อไปนี้เพื่อประกอบการตดัสินใจค่ะ 

1. ปลอดภัยไหม? 

เมื่อคำนึงถึงความปลอดภัย สายรัดนิรภัย หรือเข็มขัดนั้นสำคัญมากๆ นะคะ เพราะถ้าเข็นลูกข้ามถนน แล้วลูกเกิดปีนป่ายในช่วงที่เราไม่ทันมอง จะเกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้น สายรัด และตัวล็อค ต้องแข็งแรงมากๆ ค่ะ

2. เบาะถอดซักง่าย

เด็กเล็กจะอาเจียน ปัสสาวะ และทำน้ำหกใส่เบาะรองนั่งค่อนข้างบ่อย เพราะฉะนั้นควรเลือกรถเข็นเด็กที่เบาะถอดซักง่าย บางรุ่นราคาถูกแต่เบาะติดมากับโครงรถ ก็จะทำให้ถอดซักไม่ได้ ต้องหาซื้ออุปกรณ์เสริมมารองป้องกันการเลอะ รวมๆ แล้วก็จ่ายเท่ากับการซื้อรถเข็นเด็กราคากลางๆ เพราะฉะนั้นควรเลือก และได้สัมผัสก่อนซื้อค่ะ

3. พับเก็บง่ายไหม

รถเข็นเด็กแทบทุกรุ่นโฆษณาว่าพับเก็บได้ บางรุ่นพับเก็บมือเดียว บางรุ่นพับเก็บหลายสเต็ปกว่าจะเล็กให้เรายกไหว การพับเก็บขึ้นอยู่กับการใช้งานนะคะ ถ้าพับเก็บขึ้นลงรถบ่อยๆ คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกแบบที่พับได้ไม่ยาก น้ำหนักเบา แต่ถ้าต้องการใช้เดินทางต่างประเทศ และต้องการความแข็งแรง ก็เลือกวัสดุที่เป็นโลหะน้ำหนักเบา ใช้งานได้ทั่วโลก

4. ระยะเวลาการใช้งาน

การหารถเข็นเด็กคันเดียวเพื่อให้ใช้งานได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึง 6 ขวบ เป็นเรื่องยากมากๆ ค่ะ เพราะเราไม่รู้ว่าในอีก 2-3 ปี ลูกเราจะมีพัฒนาการและนิสัยเป็นอย่างไร เด็กบางคนอยากจะวิ่ง ไม่ยอมนั่ง หรือบางคนตัวใหญ่เกินกว่ารถเข็นเดิมที่เราไม่อยู่ วิธีการเลือกจึงควรเลือกตามอายุการใช้งาน บวกไป 2-3 ปี ไม่ต้องเผื่อยาวๆ ถ้าไม่สามารถใช้งานได้แล้วก็นำไปขายมือสอง หรือซื้อคันใหม่มือสองมาใช้ ได้ราคาประหยัดไปอีกค่ะ

5. เลือกจากฟังก์ชั่นเพิ่มเติม

ม่านบังแดด กับที่วางแก้วน้ำเป็นส่วนที่จำเป็นสำหรับหลายๆ ครอบครัว เพราะการใช้งานรถเข็นเด็กนอกบ้านสุดท้ายเราก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเหล่านี้มาติดอยู่ดี เดี๋ยวนี้บางยี่ห้อทำที่เก็บของขนาดใหญ่ และม่านต่างๆ มาให้แล้ว ไม่ต้องเสียเงินซื้อหลายต่อค่ะ 

รถเข็นเด็กรับน้ำหนักได้เท่าไหร่?

รถเข็นเด็กส่วนใหญ่จะแบ่งการรับน้ำหนักออกเป็น 3 รุ่น ได้แก่ เด็กแรกเกิด, เด็กโต และเด็กแฝด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่คำนวณได้จากน้ำหนักของเจ้าตัวน้อย เพื่อเลือกซื้อได้

  • รถเข็นเด็กสำหรับทารกแรกเกิด: รับน้ำหนักได้ประมาณ 10-15 กิโลกรัม
  • รถเข็นเด็กสำหรับเด็กโต: รับน้ำหนักได้ประมาณ 15-25 กิโลกรัม
  • รถเข็นเด็กแบบพิเศษ เช่น รถเข็นเด็กคู่: รับน้ำหนักรวมได้ประมาณ 30-45 กิโลกรัม

รถเข็นเด็กรุ่นไหนดี?

ปัจจุบันนี้มีแบรนด์รถเข็นเด็กหลากหลายยี่ห้อมากทีเดียว มีขายทั้งใน Central Online และตามงาน Baby Bust Buy ต่อไปนี้เราจะแนะนำรถเข็นเด็กตามกลุ่มประเภทต่างๆ เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่ได้พิจารณากันค่ะ

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี?​ เลือกจากแบรนด์คุณภาพ

การเลือกรถเข็นเด็กจากแบรนด์ เป็นวิธีเลือกยอดนิยมสำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ถึงแม้ว่ารถเข็นเด็กแบรนด์คุณภาพบางรุ่นจะมีราคาที่ค่อนข้างสูง แต่ผ่านการรับรองด้านความปลอดภัย มีบริการหลังการขายที่ดีเยี่ยม และถ้าหากคิดว่าจะได้ใช้ขึ้นเครื่องบิน ทั้ง 5 ยี่ห้อนี้ก็ผ่านการรับรองความปลอดภัยแบบสากล 

  1. Chicco
    • โดดเด่นเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบาย มีหลากหลายรุ่นให้เลือก
  2. Combi
    • เน้นความเบา พับเก็บง่าย และเหมาะสำหรับการเดินทาง
  3. Graco
    • มีฟังก์ชันหลากหลายและคุ้มค่ากับราคา
  4. Baby Jogger
    • เหมาะสำหรับครอบครัวที่ชอบกิจกรรมกลางแจ้งและการออกกำลังกาย
  5. Aprica
    • ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา และใช้งานง่าย

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี?​ เลือกตามอายุ

รถเข็นเด็กแรกเกิด

รถเข็นเด็กสำหรับเด็กแรกเกิด ควรมีลักษณะอย่างไร? นั้น “รถเข็นเด็กแรกเกิด” ควรมีความปลอดภัยสูง เพราะเด็กทารกยังบอบบางต่อการเคลื่อนไหว เบาะนั่งควรรองรับสรีระเด็กได้ดี ปรับนอนได้  มีความแข็งแรง และอ่อนโยนต่อผิวเด็ก ตัวล้อและคันโยกเข็นควรมีความแข็งแรง ป้องกันการสั่นสะเทือน รวมถึงโครงสร้างรองรับการติดม่านบังแดดและบังยุง  

รถเข็นเด็กแรกเกิด

รถเข็นเด็ก 3 ขวบ วัยเดิน ควรเลือกแบบไหนดี? รถเข็นเด็ก 3 ขวบ ควรมีน้ำหนักเบา พับง่าย และรองรับน้ำหนักหนูน้อยได้อย่างเหมาะสม และควรปรับนอนได้ เพื่อความสบายขณะเดินทาง มีโครงสร้างแข็งแรงและตัวล็อคที่แน่นหนา รวมไปถึงช่องเก็บสัมภาระ อย่างน้อยก็ต้องใส่ทิชชู่เปียก กับขวดน้ำได้

รถเข็นเด็กโต

รถเข็นเด็กโต ควรเลือกแบบไหน? รถเข็นเด็กโตสามารถตัดส่วนที่ไม่จำเป็นออก อย่างเช่น ช่องเก็บสัมภาระ เพื่อเลือกรถเข็นเด็กโตที่มีขนาดโครงสร้างแข็งแรง รองรับน้ำหนักเด็กได้ ลดแรงสั่นสะเทือนได้ขณะเข็นเดินทาง ตัวล้อควรใช้งานบนพื้นที่หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น ฟุตบาธ ทางราบ ทางเลี้ยว รถเข็นเด็กโตควรแข็งแรง น้ำหนักเบา และพับเก็บง่าย

รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี เลือกตามการใช้งาน

การเลือกรถเข็นเด็กตามการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น รถเข็นเด็กพับได้ รถเข็นเด็กขึ้นเครื่องบิน รถเข็นเด็กแฝด มีคำแนะนำและพิกัดยี่ห้อต่างๆ ดังนี้

รถเข็นเด็กแรกเกิด ยี่ห้อไหนดี

รถเข็นเด็กแรกเกิด สำหรับทารกโดยเฉพาะ มีเบาะรองนอนที่เหมาะสม แข็งแรง สะดวกสบาย ได้มาตรฐาน อาทิ 

  1. Babyzen Yoyo: พับเก็บง่าย ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการเดินทาง SHOPEE | LAZADA
  2. GB Pockit: ขนาดเล็กที่สุดในโลก พกพาสะดวก SHOPEE | LAZADA
  3. Maclaren Quest: แข็งแรง ทนทาน เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล SHOPEE | LAZADA

รถเข็นเด็กพับได้ ยี่ห้อไหนดี

รถเข็นเด็กพับได้ ที่เหมาะสำหรับการพกพาและการดูแลรักษา อาทิ

  1. Combi F2: น้ำหนักเบา พับเก็บง่าย SHOPEE | LAZADA
  2. Aprica AirRia: ดีไซน์ทันสมัย น้ำหนักเบา SHOPEE | LAZADA
  3. Joie Pact: ราคาไม่แพง แต่คุณภาพดี SHOPEE | LAZADA

รถเข็นเด็กแฝด ยี่ห้อไหนดี

รถเข็นเด็กแฝด หรือพี่น้องที่อายุไล่เรี่ยกัน มียี่ห้อไหนบ้าง?

  1. Graco: รองรับน้ำหนักได้มาก มีเบาะแยกอิสระ SHOPEE | LAZADA
  2. JOOVY รุ่น Caboose Ultralight : เหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่แคบ SHOPEE | LAZADA
  3. Beige : เบาและพับเก็บง่าย  SHOPEE | LAZADA

รถเข็นเด็กใช้งานได้ถึงอายุเท่าไหร่?

ส่วนใหญ่เด็กที่เดินได้แล้วมักไม่อยากนั่งรถเข็นเด็กก็จริง แต่รถเข็นเด็กจะช่วยสร้างขอบเขตให้เด็กไม่เคลื่อนไหวไปรบกวนผู้อื่นในขณะที่ใช้ชีวิตนอกบ้าน รวมไปถึงช่วงที่น้องต้องนอน จะได้มีที่นอนไว้รองรับได้ทุกที่ ลดการอุ้มของคุณพ่อคุณแม่ รถเข็นเด็กถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับเด็กตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุประมาณ 3-4 ขวบ หรือจนกว่าเด็กจะมีน้ำหนักประมาณ 15-25 กิโลกรัม ขึ้นอยู่กับรุ่นและยี่ห้อของรถเข็น นอกจากนี้ยังมีรถเข็นบางรุ่นที่รองรับเด็กโตได้ถึง 6 ขวบหรือมากกว่านี้ การเลือกรถเข็นเด็กที่ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ประหยัด คือเลือกจากการใช้งาน ถ้าวันหนึ่งเกิดใช้ไม่ถนัดแล้วก็สามารถส่งต่อตามกลุ่มของใช้เด็กมือสองได้ค่ะ

อายุการใช้งานของรถเข็นเด็กนานเท่าไหร่?

รถเข็นเด็ก 1 คัน มีอายุการใช้งานได้ 5-7 ปีทีเดียวค่ะ ถ้ายิ่งดูแลดี ถอดซักทำความสะอาดบ่อยๆ ก็สามารถส่งต่อจากพี่สู่น้องได้ แต่ถ้าเลือกรถเข็นเด็กราคาถูก ส่วนที่เป็นพลาสติก็อาจจะลอกได้ง่าย และล้อก็อาจจะแข็ง แตกได้ง่ายเช่นกัน เพราะฉะนั้นแล้วการเลือกรถเข็นเด็กไม่ควรเลือกที่ราคาถูกเกินไป ถ้าต้องใช้งานหนักๆ ก็ควรเลือกรถเข็นเด็กราคากลางๆ ถึงราคาสูง เพราะเป็นสินค้าจำเป็น วันหนึ่งหากคุณไม่ใช้ ก็เอาไปส่งต่อได้ และถ้าอยากประหยัด ก็หาซื้อรถเข็นเด็กมือสองจากรุ่นต่างๆ ที่แนะนำไปข้างต้นมาใช้งานได้เช่นกันค่ะ 

“รถเข็นเด็ก”​ จัดอยู่ในกลุ่มสินค้าที่เป็น Wish List ของคุณพ่อคุณแม่ หากซื้อมาแล้วก็ได้ใช้งานแน่นอน หรือหากต้องการซื้อเป็นของขวัญให้กับแม่ลูกอ่อน ก็ถือเป็นสินค้าที่เหมาะสมที่สุด ตอบโจทย์ในความสะดวกด้านการเดินทาง และลดความเหนื่อยล้าเมื่อต้องอุ้มเด็กเป็นเวลานาน และยังสร้างความปลอดภัยให้แก่เด็กขณะเดินทางอีกด้วย สำหรับใครที่กำลังเลือกหาซื้อรถเข็นเด็กอยู่สักคัน ก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นประโยชน์นะคะ 

Read More :

    สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สั่งซื้อสินค้าใน TikTok เป็นประจำ
    ขอแนะนำให้คลิกลุ้นรับโค้ดส่วนลด TikTok Shop 30% ได้ที่นี่

    ใส่ความเห็น

    I’m Panghoam

    สวัสดีค่ะ -/\- ยินดีต้อนรับสู่เว็บไซต์ ช้อปเด็ก ดอท คอม รวมบทความไลฟ์สไตล์ที่เที่ยวครอบครัว ข่าวสารสุขภาพ รวมถึงแนะนำสินค้าเด็ก ตั้งแต่คุณแม่ตั้งครรภ์ ไปจนถึงเด็กแรกเกิด ฝากติดตามเว็บของแม่แป้งหอม ในนี้ และที่เพจ เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์ด้วยนะคะ