บ้านไหนกำลังเตรียมสอบเข้าสาธิตเกษตร เพื่อสอบเข้า ป.1 กันอยู่บ้างเอ่ย? วันนี้แม่ต้นหอม เจ้าของเพจ “เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์” จะมารีวิวประสบการณ์พาลูกสอบเข้าสาธิตเกษตร ปีการศึกษา 2567 ฉบับสบายๆ นะคะ ถ้าใครที่อยากติวเข้ม แบบติดแน่ๆ บทความนี้น่าจะไม่ตอบโจทย์ค่ะ (ผ่านได้ผ่าน!) แต่ถ้าคุณแม่อยากฟังบรรยากาศเพื่อเตรียมตัว ต้นว่าต้นพอจะเล่าได้อยู่นะ 🥰
สอบเข้าสาธิตเกษตร ป. 1 ต้องเตรียมตัวอย่างไร
การเตรียมตัวสอบเข้าสาธิต ถ้าหากอยากมีเพื่อนคุย มีกลุ่มที่ผู้ปกครองรวมตัวกันในชื่อ สอบเข้าป.1 สาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ซึ่งมีผู้สมัครแต่ละปี มาหาข้อมูลการสอบ แล้วเราจะได้แลกเปลี่ยน ความรู้เกี่ยวกับการสอบ การเตรียมตัว
ถ้าหากจะเตรียมความพร้อมให้ได้สัก 90% ผู้ปกครองส่วนใหญ่เขาเตรียมตัวกันมาตั้งแต่คลอดเลยนะคะ เริ่มต้นจากเอาเทียบเกณฑ์อายุบุตรกับปีการศึกษาที่จะสมัครสอบ แล้วมาวางแผนการติวกัน เท่าที่ไล่ๆ อ่านมาใน FB Group ก็พอจะสรุปการเตรียมตัวได้ดังนี้
1. เอาวันเกิดไปเทียบเกณฑ์ปีการศึกษาที่จะสอบเข้าสาธิตเกษตร
2. วางแผนติวเอง หรือลงคอร์ส
3. เลือกโรงเรียนที่ติวให้ได้ หรือโรงเรียนประจำทั่วไป แล้วค่อยไปลงคอร์สกวดวิชา
4. สมัครสอบ
5. เมื่อถึงวันสอบ หาเช่าที่พักใกล้โรงเรียนล่วงหน้า 2 วันให้เด็กคุ้นชินกับบรรยากาศการเดินทาง

ของน้องได้สอบปีการศึกษา 2567 ตามเกณฑ์อายุเด็กที่เกิดระหว่าง 15 ธันวาคม 2560 – 15 ธันวาคม 2561 ทำให้เราเห็นว่า เด็กที่เกิดวันที่ 15 ธันวาคม น่าจะมีโอกาสสอบได้สองครั้งหรือเปล่านะ? ต้องไปถามฝ่ายรับสมัครดูค่ะ โดยโรงเรียนสาธิตเกษตรจะเปิดรับสมัครในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ผ่านช่องทางออนไลน์ ผู้ปกครองต้องเข้าไปที่เว็บไซต์ http://www.kus.ku.ac.th เพื่อกด Refresh ดูประกาศรับสมัครกันตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เพื่อเตรียมตัวกันเลยทีเดียว
เอกสารที่เตรียมสมัครสอบเข้าสาธิต ก็ทั่วๆ ไป ได้แก่ 1. สูติบัตรนักเรียน 2. ทะเบียนบ้านพ่อแม่ตัวจริง (หรือผู้ปกครองที่ไม่ใช่พ่อแม่) 3. ใบรับรองการศึกษาปีล่าสุด ที่ประทับตราโรงเรียนไว้ไม่เกิน 60 วัน 4. รูปถ่าย 1 นิ้ว 5. หนังสือเปลี่ยนชื่อสกุลนักเรียน (ถ้ามี)
แนะนำเพิ่มเติมว่า วันสมัครให้เอาเอกสารตัวจริงทุกอย่างไปด้วย ก่อนออกจากบ้านต้องทวนเอกสารทั้งหมดให้ดี หากระเป๋าใบใหญ่ๆ หยิบง่ายๆ เพื่อจัดเก็บ ป้องกันการตกหล่นหาย (โดยเฉพาะรูปถ่าย ต้องหาคลิปหนีบไม่ให้หลุด)
การรับสมัครนักเรียน ป.1 โรงเรียนสาธิตเกษตรปีล่าสุด
แม่นำข้อมูลการรับสมัครสอบเข้าสาธิตเกษตรปีล่าสุดมาให้ดูกันค่ะ หลังจากที่เราทราบวันและเวลาต่าง ๆ แล้ว ก็จองที่พักสำหรับวันสอบได้เลย ถ้าไม่รีบจองหอพักต่างๆ จะเต็มเร็วมาก มีคำแนะนำจากคุณพ่อคุณแม่บางท่านบอกว่าในมหาวิทยาลัยเกษตรก็มีห้องพักที่ให้คนนอกเช่ารายคืนได้ ก็ต้องรีบจองไว้แต่เนิ่มๆ ก่อนเต็มนะคะ
- บุคคลภายนอก รับใบสมัครผ่านเว็บไซต์ในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 67 เวลา 8.00 น. ถึง 7 กุมภาพันธ์ 67 เวลา 18.00 น. และชำระค่าสมัคร 1,000 บาท ผ่าน SCB Easy App ภายในวันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ 67 เวลา 22.00 น.

- 7-14 กุมภาพันธ์ 67กรอกใบสมัครผ่านเว็บไซต์ให้ครบถวน แล้วพิมพ์ใบ ป.1 ส.2 และ ป.1 ส.3 ไปยื่นที่โรงเรียนในวันและเวลาที่กำหนด
- ยื่นใบสมัครที่วันเสาร์ที่ 2 และอาทิตย์ที่ 3 มีนาคม 67 เวลา 8.00 – 16.00 น. ณ อาคารอุบล เรียงสุวรรณ ตามที่แจ้งในเอกสาร โดยผู้ปกครอง 1 ท่านมายื่น ไม่ต้องพานักเรียนมา
- พานักเรียนไปประเมินความพร้อม 19 มีนาคม 67 เวลา 8.30 – 12.00 น. ณ โรงเรียนสาธิตแห่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ศูนย์วิจัยและพัฒนาการศึกษา ต้องสส่งนักเรียนก่อน 9.00 น.
เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจเอกสารครบถ้วนแล้ว ก็จะได้รับใบสมัครสอบของน้องมา ให้ติดตัวน้องไว้ในวันสอบ แม่ใช้เทคนิคหาแฟ้มเล็กๆ 20 บาท แบบติดกระดุม ป้องกันเอกสารและบัตรหล่นหาย ใส่ทุกอย่างไว้ในนั้น แล้วก็เก็บไว้ในกระเป๋าใบใหญ่อีกทีนึง หลังจากเราก็ไปกินข้าวกันค่ะ โรงอาหารที่นี่มีชื่อเรียกว่า บาร์ใหม่ บาร์เก่า เยอะแยะมากมาย ให้เลือกกันแบบละลานตากันเลยทีเดียว

การพาลูกมาสอบเข้าสาธิตเกษตร ทำให้เรานึกถึงช่วงเวลาที่เคยเป็นนิสิต นักศึกษา พ่อกับแม่ก็สนุกกับการเลือกอาหารเมนูราคาเบาๆ แล้วเอามาแชร์นั่งกินกันที่โต๊ะ ทุกอย่างเด็ดหมดค่ะ ถ้ามาเช้าๆ ก็จะมีข้าวมันไก่ ก๋วยเตี๋ยวไก่ ให้เลือกมากมาย มองไปรอบๆ ก็จะเจอกับคุณพ่อคุณแม่ที่พาลูกมาสมัครสอบเหมือนกัน เด็กแต่ละคนดูเรียบร้อย มีความพร้อมมากๆ ดูออกเลยว่าเตรียมตัวกันมาดีแค่ไหน

โรงอาหารเกษตรแต่ละโรงก็จะมีโต๊ะเยอะๆ ให้เลือกนั่งใกล้ร้านที่คุณพ่อคุณแม่สะดวก ถ้าได้มาสมัครสอบสาธิตเกษตรก็แนะนำให้ดื่มนมเกษตรด้วยนะคะ ขายถุงละ 10 กว่าบาท เพราะวันสอบจริงทางโรงเรียนจะจัดนมมาให้ดื่มช่วงพักเบรก จะได้คุ้นกับรสชาติ แต่ถ้าใครแพ้นมวัวก็แจ้งกับทางโรงเรียนได้บนเอกสารรับสมัคร

วันไปสอบ บ้านเราเดินทางด้วยรถไฟฟ้าค่ะ ออกเวลาปกติของทุกวัน แล้ววางแผนไปกินข้าวที่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ด้วยความกลัวลูกเหนื่อย พ่อก็แบกขึ้นหลังวิ่งๆ โชคดีเจอรถ Sightseeing ของมหาวิทยาลัย ทำให้ลดเวลาเดินได้มากขึ้น หลังจากกินข้าวแล้วก็ไปส่งน้องตามประตูที่นัดหมายไว้ โดยจะแยกตามเลขที่บนบัตร หลังจากนั้นก็ไปรอรับน้องตามเวลา ทางโรงเรียนจะให้บัตรรับส่งนักเรียนแก่ผู้ปกครองไว้ ถ้าไม่มีบัตรนี้ก็จะรับยากหน่อยน้า

วันนั้นรถราจะแน่นหนามาก การจราจรเรียกได้ว่าติดขัดสุดๆ อากาศก็ค่อนข้างร้อนด้วย แต่มีตึกสะดวกสบาย ร่มรื่น ให้รอรับน้องได้รอบๆ มหาวิทยาลัย หรือถ้าใครจะใช้เวลาไปมู ก็มีศาลหลักๆ สองที่ ได้แก่ ศาลเจ้าพ่อหนองผักชี อยู่ใกล้ๆ ทางเข้าสาธิตเกษตร และพระพุทธรูปในสาธิตเกษตร ท่องบทสวดพระรัตนตรัย ไม่ต้องบนนะคะ

การติวของบ้านเราก็ซื้อหนังสือติวสอบเข้าเกษตรทั่วไปเลย มีขายหน้าโรงเรียนในวันรับสมัครก็มี ข้อสอบส่วนใหญ่ตรงเกือบ 100% ก็จะต้องเอามาอ่านก่อนสอบล่วงหน้าเป็นปี มีข้อสอบเก่า 3000 – 6000 ข้อ โจทย์ซ้ำๆ เอามาเวียน ๆ กันแต่ละปี ลูกเรายังอยู่อนุบาล 2 ก็จะเป็นรองเด็กที่เรียนมาตามเกณฑ์ที่สะกดคำเป็น เขียนชื่อ แยกสี จำวันต่างๆ ได้แล้ว ก็ไม่เป็นไรนะคะ ถือว่ามาลองสนาม อย่ากดดันเขา

มีขายที่LAZADA
สุดท้ายนี้ลูกจะสอบได้หรือไม่ได้นั้นไม่เป็นไร เพราะเรียนที่ไหนก็ (ไม่) เหมือนกันอยู่แล้ว แต่เราจะได้วางแผนการศึกษาของลูกในลำดับต่อไปได้ถูก ประสบการณ์ที่พ่อแม่จะได้รับ ก็คือจะทราบพัฒนาการของลูก และมาตรฐานของโรงเรียนอนุบาลเดิมที่ลูกได้เรียนมา ได้นำไปประกอบการตัดสินใจว่าจะส่งเสริมลูกไปต่อในทางใด ..ทั้งหมดนี้แม่ประมาณค่าสมัครและค่าเสียเวลาให้คร่าวๆ ไว้ รวม 3,500 บาท เมื่อเทียบแล้วก็ไม่ต่างจากการพาลูกไปพักโรงแรมเที่ยวทะเล 1 คืน แต่ประสบการณ์ครั้งนี้จะติดตัวให้เด็กรู้ว่าโลกเรามีการแข่งขันอีกเยอะ ! (ขอให้ทุกท่านโชคดีค่ะ)
**เนื้อหาในบทความนี้ไม่อนุญาตให้คัดลอก ดัดแปลง ทำซ้ำ หรือนำไปรีไรต์ใหม่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากผู้เขียนอย่างเป็นลายลักษณ์อักษร หากสนใจนำเนื้อหาไปใช้ให้ทำจดหมายขอเช่าลิขสิทธิ์ติดต่อมายังเพจ หากผู้เขียนพบเจอในภายหลังจะดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าลิขสิทธิ์ทั้งตัวอักษรและภาพทุกกรณี
ติดตามเพจได้ที่นี่ “เลี้ยงลูกทำคอนเทนต์”
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่สั่งซื้อสินค้าใน TikTok เป็นประจำ
ขอแนะนำให้คลิกลุ้นรับโค้ดส่วนลด TikTok Shop 30% ได้ที่นี่








ใส่ความเห็น